เอิร์ธ CPL Polarizing โพลาไรซ์ ฟิลเตอร์ คุณภาพแถวหน้าในราคาสบายกระเป๋า
คุณสมบัติเด่นที่วางใจได้ว่านี่คือฟิลเตอร์โพลาไรซ์คุณภาพเยี่ยม
- โค้ทปกป้องผิวฟิลเตอร์แบบนาโน ถึง 8 ชั้น ปกป้องสุดแกร่ง
- ทำความสะอาดได้ง่ายมาก
- ตัดแสงสะท้อนแบบโพลาไรซ์ได้ถึง 9%
- เกลียวหมุนปรับความเข้มของฟิลเตอร์ นุ่มนวลกำลังดี ปรับได้ละเอียด ไม่คลาดเคลื่อนหรือไหลเอง
- เพิ่มความอิ่มตัวของสี สีสดใสกระจ่าง มีมิติมากยิ่งขึ้น
- ตัดแสงสะท้อนจากพื้นน้ำ กระจก และพื้นผิวที่ไม่ใช่โลหะ
- เพิ่มคอนทราสต์หรือความเปรียบต่างของภาพให้สวยขึ้น
- รับประกันคุณภาพ มีปัญหาภายใน 30 วันแจ้งเปลี่ยนชิ้นใหม่ให้ทันที
จุดเด่นของ CPL จากเอิร์ธ
- ใช้กระจกโพลาไรซ์เกรดพรีเมี่ยมจาก AGC ประเทศญี่ปุ่น เชื่อถือได้ในคุณภาพ
- ขอบฟิลเตอร์เป็นแบบบางพิเศษไม่ทำให้เกิดขอบมืดหรือติดขอบฟิลเตอร์
- กรอบฟิลเตอร์ทำด้วยวัสดุ Magnalium (ส่วนผสมระหว่างแมกนีเซียมและอลูมิเนียม) สุดแกร่งแต่เบาพิเศษ ทนทนแบบสุดๆ
- เกลียวสองชั้น สามารถซ้อนฟิลเตอร์อื่นได้
- ใช้ฝาปิดเดิม ขนาดเดิมได้ตามปกติ (เช่น ฟิลเตอร์ขนาด 77 มม ก็ใช้ฝาปิด 77 มม ได้ตามปกติ)
- กินแสงเพียง 3 สต็อป เมื่อปรับเป็นโพลาไรซ์แบบเข้มสุด
ช่วยตัดแสงสะท้อน เนื้อภาพดูแน่นขึ้น สีอิ่มสวยขึ้น
อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลย ในกระเป๋ากล้องของช่างภาพ
โดยเฉพาะสาย Landscape และ Cityscape ต้องมี
ฟิลเตอร์โพลาไรซ์จาก เอิร์ธ คุณภาพเยี่ยมราคาสมเหตุสมผล
คุณภาพระดับ 5 ดาว ตัดแสงสะท้อนได้ดี สีไม่เพี้ยน
แสงแบบ Polarized คือแสงที่สะท้อนบนวัตถุที่ไม่ใช่โลหะ
ตัวอย่างง่ายๆ ในการถ่ายภาพ เช่น
แสงที่สะท้อนพื้นน้ำ สะท้อนใบไม้ สะท้อนกระจกอาคาร ฯลฯ
พวกนี้จะทำให้ภาพดูฟุ้ง เบลอ ขาดความคมชัด สีไม่อิ่ม ฯลฯ
แก้ได้ด้วยการใช้ฟิลเตอร์โพลาไรซ์ หรือ CPL ติดหน้าเลนซ์
แล้วหมุนหาจุดที่ตัดแสงออกไปได้มากที่สุดก่อนกดชัตเตอร์
CPL ของเอิร์ธ สามารถตัดแสงโพลาไรซ์ได้ถึง 99.9% จากพื้นน้ำ กระจก และพื้นผิวที่ไม่ใช่โลหะ เช่น ใบไม้ ท้องฟ้า เป็นต้น เผยให้เห็นสีสันที่แท้จริงที่จะปรากฏในภาพของคุณ
เพียงแค่หมุนฟิลเตอร์โพลาไรซ์เพื่อตัดแสงโพลาไรซ์จากทิศทางต่างๆ ก็จะช่วยทำให้ภาพมีสีสดใสอิ่มตัวขึ้น คอนทราสต์หรือความเปรียบต่างดีขึ้น และตัดแสงสะท้อนออกไปจากภาพ
สำหรับฟิลเตอร์ของเอิร์ธ เมื่อหมุนปรับตัดแสงที่จุดเข้มสุดของฟิลเตอร์ จะมีการลดแสงลงไป 1.33 สต็อปจากแสงปกติที่เข้าหน้าเลนส์
ฟิลเตอร์เอิร์ธทุกชิ้นที่คุณใช้ คือคุณร่วมรักษ์โลกกับเรา
- เกิดคาร์บอนเพียง 1.90 กก. ต่อการผลิต 1 ชิ้น
- เอิร์ธนำเงินที่ขายสินค้าทุกชิ้น ไปร่วมปลูกต้นไม้ 5 ต้นในโครงการ Eden Reforestation Project ใน 5ประเทศ ช่วยสร้างงาน และกักเก็บคาร์บอนได้ถึง 1,537.5 กก.
- เอิร์ธและช่างภาพรักษ์โลก ร่วมกันปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 5,800,000 ต้น
- สินค้าเอิร์ธทุกชิ้นที่คุณซื้อ = ช่วยรักษ์โลกกลับคืนได้ถึงกว่า 800 เท่า!
ฟิลเตอร์ทุกชิ้น รับประกัน 1 ปี
มีปัญหาแจ้งภายใน 30 วันนับจากวันได้รับสินค้า
เปลี่ยนตัวใหม่ให้ ดำเนินการให้โดยตัวแทนในประเทศไทย
ฉันจะใช้ฟิลเตอร์ CPL ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร?
เพื่อให้ได้ผลการใช้ฟิลเตอร์ตัดแสงโพลาไรซ์อย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แหล่งกำเนิดแสงที่สะท้อนจำเป็นต้องทำมุม 90 องศากับฟิลเตอร์ CPL ของคุณ การตรวจเช็คมุมโพลาไรซ์ง่ายๆ คือเช็คด้วยรูปทรงตัว L แบบง่ายที่สุดคือใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของคุณกางออกให้ทำมุม 90 องศา (นึกง่ายๆ ถึงตอนที่เราทำมือท่าเก๊กหล่อไว้ใต้คางตอนถ่ายรูปเล่นกัน) จากนั้นก็ชี้นิ้วโป้งของคุณไปที่เลนส์ จุดที่นิ้วชี้ของคุณชี้ไปนั้นคือจุดที่มุมที่มุมที่ฟิลเตอร์จะตัดแสงสะท้อนได้มากเต็มที่สูงสุด
แต่ในบางครั้ง ณ จุดที่เป็นมุมโพลาไรซ์แบบเต็มที่ ก็อาจจะดูเข้มมากไปจนดูไม่สมจริงได้เช่นกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นเราแนะนำให้คุณหมุนฟิลเตอร์กลับเล็กน้อยเพื่อลดความเข้มลง จนได้ภาพที่สมจริงในความรู้สึกของคุณ
ฉันสามารถใช้ CPL กับเลนส์มุมกว้าง และ เลนส์เทเล ได้หรือไม่
ตอบ ได้แน่นอน แนะนำ ฟิลเตอร์เอิร์ธ รุ่น Plus+ ใช้กับเลนส์เทเลโฟโต้ได้ดี
ฟิลเตอร์ของเอิร์ธทุกรุ่นทุกชิ้น ถูกออกแบบมาแบบขอบฟิลเตอร์บางเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดขอบมืดหรือวิกเนตต์ที่มักเกิดเมื่อใช้กับเลนส์มุมกว้าง และสำหรับเลนส์เทเลโฟโต้ ซึ่งปกติจะมีชิ้นเลนส์จำนวนมากอยู่ในส่วนประกอบของเลนส์อยู่แล้ว ฟิลเตอร์รุ่น Plus+ ของเราที่ให้คุณภาพสูงมาก จึงเหมาะสำหรับเลนส์เทเลโฟโต้ของคุณเป็นอย่างยิ่ง เพราะนั่นหมายถึงฟิลเตอร์จะไม่ไปลดคุณภาพของเลนส์ลงไปเลย
ฟิลเตอร์ CPL มีผลต่อการเปิดรับแสงไหม
ตอบ ใช่แล้วมีผล แต่ไม่มากนัก ฟิลเตอร์ CPL URTH Plus กินแสงไปประมาณ 1.33 สต็อป
คำถามยอดนิยม
ฟิลเตอร์ เอิร์ธ รุ่น กล่องสีน้ำตาล กับกล่องสีเทา แตกต่างกันยังไง
เอิร์ธ กล่องสีน้ำตาล เป็นฟิลเตอร์รุ่นมาตรฐาน ส่วนกล่องสีเทาเป็นรุ่นพรีเมี่ยม เรียกว่า รุ่นพลัส โดยทั้งสองรุ่นจะมีความเหมือนและความแตกต่างบางอย่างในเรื่องวัสดุที่นำมาใช้ผลิต
ส่วนที่เหมือนกัน
- ใช้วัสดุแมกนาเลี่ยมทำกรอบฟิลเตอร์เหมือนกัน ทำให้มีความบาง เบา แข็งแกร่งทนทานในการใข้งานเท่ากัน
- เกลียวคู่ สามารถซ้อนกับฟิลเตอร์อื่นได้ เหมือนกัน
- สามารถใช้กับฝาปิดเลนส์ขนาดเดิมได้ทันทีเหมือนกัน
- มีฮาร์ดสต็อป หยุดการหมุนเมื่อปรับไปถึงเข้มสุดกับอ่อนสุด เหมือนกัน
ส่วนที่แตกต่างกัน
- รุ่นกล่องสีน้ำตาล ใช้ชิ้นแก้วออพติคอลของ AGC Glass ของญี่ปุ่น ส่วนรุ่นกล่องสีเทาใช้แก้วออพติคอลของ SCHOTT B270 ของเยอรมัน
- รุ่นกล่องสีน้ำตาล เคลือบผิวแบบนาโน 8 เลเยอร์ ส่วนรุ่นกล่องสีเทา เคลือบผิวแบบนาโน 20 เลเยอร์
- ราคา รุ่นพลัส กล่องสีเทา จะมีราคาสูงกว่ากล่องสีน้ำตาลอยู่ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เช่น ขนาดหน้าฟิลเตอร์เดียวกัน สมมติว่ากล่องสีน้ำตาลราคา 1,000 บาท กล่องสีเทาจะราคาอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท
ประสิทธิภาพการใช้งาน
- กล่องสีน้ำตาล ติดอุ่นมากกว่ากล่องสีเทาเล็กน้อย (สามารถแก้ไขได้โดยการลด White Balance ลงจากปกติปะรมาณ 400K) จะได้สีที่ใกล้เคียงกับการไม่ใส่ฟิลเตอร์
- กล่องสีน้ำตาล ให้คุณภาพดีกว่าฟิลเตอร์ VND ราคาถูกกว่าและราคาเท่ากันในท้องตลาดทั่วไปอย่างมาก กล่องสีเทา ให้ความคมชัดมากขึ้นไปอีกระดับด้วยแก้วพรีเมี่ยมและการโค้ทที่ละเอียดกว่า สำหรับงานระดับมืออาชีพ
แต่ละรุ่นแนะนำสำหรับใครบ้าง
- ความสามารถในการลดแสง ขึ้นอยู่กับเบอร์ฟิลเตอร์และการใช้งานของผู้ใช้เอง สามารถเลือกได้ตามความต้องการ
- งบประมาณ กล่องสีน้ำตาลเหมาะสำหรับผู้ต้องการฟิลเตอร์คุณภาพดีและคุ้มค่าที่สุดในราคาประหยัด ส่วนกล่องสีเทาสำหรับความต้องการฟิลเตอร์ที่สามารถเพิ่มงบประมาณสูงขึ้นได้เพื่อประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในระดับมืออาชีพที่คาดหวังคุณภาพสูงสุด
- เลนส์ที่ใช้ กล่องสีน้ำตาล แนะนำสำหรับเลนส์รุ่นมาตรฐานทั่วไปที่มีราคาประหยัดถึงราคาปานกลาง เช่น เลนส์เอฟไหลหลายค่า ส่วนกล่องสีเทา แนะนำสำหรับเลนส์ในซีรี่ย์มืออาชีพของยี่ห้อต่างๆ หรือเลนส์ไวแสงคุณภาพสูงที่ราคาสูง แนะนำเลือกฟิลเตอร์เอิร์ธพลัสกล่องสีเทาเพื่อให้ภาพมีคุณภาพสูงสุด
- คุณภาพที่ต้องการ กล่องสีน้ำตาลเหมาะให้คุณภาพภาพที่สูงกว่าฟิลเตอร์ CPL ราคาถูกทั่วไป เหมาะสำหรับนักถ่ายภาพและวิดีโอทั่วไป ส่วนกล่องสีเทา แนะนำสำหรับการใช้งานในระดับมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพสูงสุดทุกด้าน
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ
เปรียบเทียบแบบเลนส์ Canon ฟิลเตอร์เอิร์ธรุ่นกล่องสีน้ำตาล คือเลนส์รุ่นมาตรฐาน รุ่น Consumer ส่วนกล่องสีเทา คือเลนส์ L ซีรี่ย์ ถ้าเป็น Sony ฟิลเตอร์เอิร์ธกล่องเทาคือเทียบตำแหน่งสินค้ากับเลนส์ G Master ของ Sony
เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ กับรุ่นรถ ถ้าเป็นรถเก๋งฮอนด้า รุ่นกล่องสีน้ำตาล คือฮอนด้าซีวิค ส่วนรุ่นกล่องเทา คือฮอนด้าแอคคอร์ด
ฟิลเตอร์ทุกประเภท คือชิ้นแก้วชิ้นหนึ่งที่นำมาบังหน้าเลนส์ และมีผลต่อคุณภาพของเลนส์โดยตรง อย่าเลือกฟิลเตอร์ไม่ว่าฟิลเตอร์ประเภทใดโดยยึดเอาราคาถูกที่สุดเป็นหลัก จะไม่คุ้มกับคุณภาพที่เสียไป โดยเฉพาะเลนส์ดีๆ แพงๆ ยิ่งต้องพิถีพิถันกับการเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่จะมาใส่ไว้หน้าเลนส์เพื่อรักษาคุณภาพที่ดีของเลนส์เอาไว้ ฟิลเตอร์เอิร์ธ เข้าใจเรื่องนี้ดีและเราผลิตฟิลเตอร์หลากหลายรุ่นที่ล้วนแต่มีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานไปจนถึงระดับมืออาชีพ ในราคาที่สมเหตุสมผล เรารับรองว่า ฟิลเตอร์คุณภาพดีในราคาสมเหตุสมผล มีอยู่จริง
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์